

ททท. ประกาศพลัง Sustainable Tourism ร่วมเล่าเรื่องอนาคตของโลกผ่านมุมมองการท่องเที่ยวไทย บนเวที World Expo 2025 Osaka Kansai
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน World Expo 2025 Osaka Kansai จัดนิทรรศการชั่วคราวภายใต้คอนเซปต์ The Future of Earth and Biodiversity ระหว่างวันที่ 17 -28 กันยายน 2568 พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวอนาคตของโลกผ่านมุมมองการท่องเที่ยวไทยนำเสนอศักยภาพและเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะ Sustainable Tourism ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสื่อสารตรงถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของการท่องเที่ยวไทยในระยะยาวโดยเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 นางสาวนัทรียาทวีวงศ์ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานายจาตุรนต์ภักดีวานิชอธิบดีกรมท่องเที่ยวนางสาวฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ผู้ว่าการททท. นางศุภิดาอ่อนบรรจงผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการททท. และนางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายบริการการตลาด ททท. ได้ให้เกียรติเยี่ยมชมนิทรรศการประเทศไทย พร้อมร่วมสำรวจพาวิลเลียนของประเทศอื่น ๆ ภายในงานอีกด้วย ทั้งนี้ ตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา พาวิลเลียนประเทศไทยได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.5 ล้านคน ตอกย้ำความนิยมและเสน่ห์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมบนเวทีระดับโลก
นางสาวนัทรียาทวีวงศ์ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า การเข้าร่วมงาน World Expo 2025 Osaka Kansai ของกระทรวงกาท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. ครั้งนี้จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างนักท่องเที่ยวกับประเทศไทย โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและจากทั่วโลกเข้ามาทำความรู้จักและสัมผัสเสน่ห์ความเป็นไทยด้วยตัวเอง เพื่อรับแรงบันดาลใจก่อนออกเดินทางจริง ผ่านการจัดแสดงใน Thailand Pavilion และกิจกรรมการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม และอาหารไทย ผ่านนิทรรศการ วิดีทัศน์ กิจกรรมเชิงวัฒนธรรม และเวิร์กชอปของ ททท. ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ตรงและความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับประเทศไทย ทั้งด้านวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมถึงแนวทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยววางแผนเดินทางมาเที่ยวไทย ตลอดจนสะท้อนศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเข้มแข็งขึ้นในสายตานานาชาติ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดท่องเที่ยวโลก
นางสาวฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ผู้ว่าการททท. กล่าวว่านับเป็นโอกาสที่ดีที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะได้แสดงศักยภาพในงานระดับนานาชาตินี้ททท. จึงนำเสนอนิทรรศการชั่วคราวผ่านคอนเซปต์ The Future of Earth and Biodiversityเล่าเรื่องอนาคตของโลกผ่านมุมมองการท่องเที่ยวไทยในหัวข้อ “การท่องเที่ยว Low Carbon” เพื่อสื่อสารแนวทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและสร้างการรับรู้ถึงความเป็นไทยในมิติของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจุดขายที่โดดเด่นของนิทรรศการดังกล่าวอยู่ที่การผสมผสานระหว่างการประชาสัมพันธ์เพื่อตอกย้ำคุณค่าแบรนด์ประเทศไทย การสร้างประสบการณ์ตรงแก่นักท่องเที่ยว และการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รับประสบการณ์ครบถ้วนในทุกมิติและดื่มด่ำเสน่ห์ของการท่องเที่ยวไทยได้อย่างลึกซึ้ง
นิทรรศการนี้ ททท. ตั้งใจประชาสัมพันธ์แบรนด์ประเทศไทยและการท่องเที่ยวไทยแบบครบทุกมิติ โดยส่งมอบประสบการณ์ตรงแก่นักท่องเที่ยวผ่าน ผ่านกิจกรรมเวิร์กชอปทำตุงไส้หมู ศิลปะการตัดกระดาษที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อและวัฒนธรรมของประเทศไทย และเชื่อมโยงกับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่คุ้นเคยกับศิลปะการตัดกระดาษพร้อมทั้งนำเสนอวิดีทัศน์ที่แสดงถึงเสน่ห์ไทยในรูปแบบต่าง ๆ ครอบคลุมอาหารไทย ประเพณี ศิลปะการแสดง และแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดต่าง ๆ และให้ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านแผ่นพับและเอกสารคู่มือท่องเที่ยวประเทศไทยทุกจังหวัด ในรูปแบบ E-Book และE-Brochures และหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวไทยที่ขาดไม่ได้ คือ การส่งเสริมแนวทางท่องเที่ยวยั่งยืน หมุดหมายสูงสุดของการท่องเที่ยวไทย โดยจัดทำ E-book 20 เส้นทางท่องเที่ยว Low Carbon สอดคล้องกับธีมของการจัดงานที่มุ่งนำเสนอแนวคิด “Thailand Connecting Lives for Greatest Happiness” ของพาวิลเลียนประเทศไทยที่นำเสนอความเป็นไทยผ่านการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาโบราณและนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทยในด้านการแพทย์ การดูแลสุขภาพ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายจำนวนผู้เข้าชมในคูหาจัดแสดงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประมาณ 1,000 คนต่อวัน รวม 12 วัน เป็น 12,000 คน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการโปรโมตประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมในใจของนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา Thailand Pavilion ในงาน World Expo 2025 Osaka Kansai ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.5 ล้านคน จนกลายเป็นหนึ่งในพาวิลเลียนที่ได้รับความสนใจสูงสุด ตอกย้ำว่าประเทศไทยยังคงครองความนิยมในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสำคัญสำหรับชาวญี่ปุ่นและนักเดินทางทั่วโลก
ภาพข่าวประชาสัมพันธ์











ข่าวล่าสุด




