Article Detail Page Background

ททท. แท็กทีม “บันลือกรุ๊ป” สร้างมิติใหม่นำแหล่งท่องเที่ยว x การ์ตูน เตรียมโปรโมตเกาะขายหัวเราะ จ.ตราด หลังโควิด-19 คลี่คลาย

01 กันยายน 2564
ข่าวองค์กร

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด และกลุ่มบริษัทเครือบันลือกรุ๊ปผู้ก่อตั้งหนังสือการ์ตูน “ขายหัวเราะ” ร่วมกันสร้างมิติใหม่ของการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวไทยนำฉากสุดคลาสสิกของการ์ตูนขายหัวเราะอย่างมุกติดเกาะมาตอกย้ำเอกลักษณ์ภาพจำของเกาะขนาดเล็กและต้นไม้เพียงต้นเดียว เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เกาะขายหัวเราะ จ.ตราด หวังขยายกลุ่มเป้าหมาย Gen Y และวัยทำงาน พร้อมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน อารมณ์ดี มีความสุข หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

นายอิษฎา เสาวรส ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตราด กล่าวว่า ททท. มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมทำงานกับกลุ่มบริษัทเครือบันลือกรุ๊ป ถือเป็นมิติใหม่ที่เกิดจากความเข้ากันพอดีของสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตราดกับภาพจำของหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ที่มีฉากคลาสสิกของหนังสือ คือ ตัวการ์ตูนติดเกาะ ททท. จึงนำ 2 สิ่งนี้มารวมกัน เพื่อตอกย้ำเอกลักษณ์ของทั้ง 2 สิ่ง คือ เกาะขนาดเล็กที่มีต้นไม้เพียงต้นเดียว สำหรับเกาะที่เรากำลังดำเนินการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของเกาะนกนอก ซึ่งเชื่อมมาจากเกาะนกใน และเกาะกระดาด เกาะนี้จะมีจังหวะที่โผล่พ้นน้ำในช่วงน้ำลด ซึ่งจะเห็นพื้นที่เกาะเล็กน้อยและมีต้นไม้ (ต้นตะบัน) ขึ้นอยู่เพียงต้นเดียว ปรากฏภาพที่คล้ายกับฉากคลาสสิกของหนังสือขายหัวเราะพอดี นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ผ่านมาพบเห็นจึงมักเรียกว่า “เกาะขายหัวเราะ” ททท. คาดว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวเกาะขายหัวเราะและหมู่เกาะใกล้เคียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เพื่อขยายกลุ่มนักท่องเที่ยว GenY วัยทำงานตอนต้น และสามารถขยายไปยังกลุ่มแฟนการ์ตูนของขายหัวเราะ อีกทั้ง ช่วยสร้างบุคลิกและบรรยากาศให้การท่องเที่ยวเต็มไปด้วยความสนุกสนาน อารมณ์ดี มีความสุขเมื่อได้มาเยือน ภายหลังสถานการณ์
โควิด-19 ดีขึ้นด้วย

นางสาวพิมพ์พิชา อุตสาหจิต กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทเครือบันลือกรุ๊ป เผยว่า ขายหัวเราะต้องการใช้ความถนัดของเรา ในด้านการ์ตูน คาแรกเตอร์ อารมณ์ขัน และ storytelling มาเป็นสื่อและสร้างกิมมิกในการพัฒนา Content และออกแบบ Content Marketing รูปแบบแคมเปญที่สนับสนุนต่อยอดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายในการสร้างการรับรู้ ว่าเกาะขายหัวเราะที่ทุกคนคุ้นเคยจากแก๊กการ์ตูนและปกขายหัวเราะนั้นมีอยู่จริงๆ และน่าไปมากๆ เพราะเชื่อมโยงจินตนาการและความสนุกด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

 การเดินทางไปเที่ยวเกาะขายหัวเราะไม่ยาก จึงอยากขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว นักผจญภัย นักเดินทาง และผู้รักอารมณ์ขันและจินตนาการทั้งหลายให้ไปเที่ยวทริปเกาะขายหัวเราะ ณ จังหวัดตราดกัน หรือทดไว้ในใจว่าจะต้องไปให้ได้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและเปิดกว้างให้ท่องเที่ยวอีกครั้ง แบรนด์ขายหัวเราะเข้าถึงและเป็นมิตรครอบคลุมกลุ่มแฟนทุกเพศทุกวัย และหลากหลายเจเนอเรชั่นอยู่แล้ว ซึ่งส่วนมากจะรู้จักผูกพันกับขายหัวเราะและแก๊กติดเกาะ จึงมีความเหมาะสมสอดคล้องในการสื่อสารแคมเปญนี้

ขายหัวเราะในฐานะ ‘สำนักการ์ตูนไทย’ นั้นมี DNA จุดเด่นเฉพาะตัว คือ ความถนัดในการใช้สื่อการ์ตูนเล่าเรื่องได้ทุกเรื่อง และความเข้าใจ insight รสนิยมความบันเทิงสนุกสนานและ culture แบบไทยๆ อยู่แล้ว ซึ่งน่าจะนำมาต่อยอดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อีกหลากหลายแนวทาง สำหรับประเทศไทยนั้น ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นมิติใหม่ของการท่องเที่ยวไทยในการใช้พลังการ์ตูนและ soft power มาสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และแปลกใหม่     เรียกได้ว่าแคมเปญเกาะขายหัวเราะ เป็นก้าวแรกที่สำคัญทั้งกับขายหัวเราะและโอกาสใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งในอนาคต อาจจะมีรูปแบบใหม่ๆ ออกมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์ใหม่ๆ รูปแบบ storytelling ที่แตกต่างไปจากเดิม หรือการทำแคมเปญ ที่ไม่จำกัดรูปแบบ ซึ่งน่าจะเหมาะกับเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคต ที่นักท่องเที่ยวต้องการมีประสบการณ์ร่วมกับเรื่องราวท้องถิ่นหลากหลายรูปแบบและเชิงลึกมากขึ้นด้วย

หลังจากที่โลกของการเดินทางต้องหยุดนิ่งมานาน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ ล้วนโหยหาความสุขจากการเดินทาง จึงมีการคาดการณ์ว่า การท่องเที่ยวจะฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญคือการบูรณาการแผนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวเพื่อรับกระแส Next Normal ของการท่องเที่ยว ซึ่งการ์ตูนสามารถใช้เป็นเครื่องมือได้ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน ในด้านการประชาสัมพันธ์ การผูกเรื่องราวและภาพลักษณ์ของคาแรกเตอร์กับการท่องเที่ยวในมิติต่างๆ ได้อย่างไม่จำกัด  ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เชิงอนุรักษ์ เชิงวัฒนธรรม  การมุ่งสร้างองค์ความรู้เพื่อนักท่องเที่ยวทั่วไปหรือเฉพาะกลุ่ม การเล่าด้วยการ์ตูนก็ทำได้อย่างไม่ยัดเยียด ประสบการณ์ที่มีความสัมพันธ์กับคาแรกเตอร์ เรื่องเล่าวัยเยาว์  ล้วนทำให้เกิดมิตรภาพและความประทับใจ ซึ่งพิสูจน์มาแล้วจากแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำทั่วโลกว่า การ์ตูนและคาแรกเตอร์ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีและเข้าถึงกับผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย

เมื่อเรากำลังมุ่งหน้าสู่ระยะต่อไปเพื่อการฟื้นฟูประเทศ ขายหัวเราะก็ยินดีและมีความสุขที่จะมีส่วนร่วมในการนำตัวละครในการ์ตูนมาสนับสนุนภาคเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ  การ์ตูนไทยถือเป็นทุนทางวัฒนธรรมประเภทหนึ่งซึ่งสามารถสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกได้ เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างกลมกลืนสามารถผลักดันขับเคลื่อนให้ขยายตัวเป็นสินค้าและบริการเชิงพาณิชยกรรมได้  สามารถยกระดับเป็นเครื่องมือสำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากทุนวัฒนธรรม

ประเทศไทยของเรายังมีเรื่องราวดี ๆ อีกมากมายในหลากหลายท้องที่ ซึ่งรอให้นักท่องเที่ยวได้มาค้นพบมิติใหม่ของการเล่าเรื่องด้วยพลังการ์ตูนของ ททท น่าจะจุดประกายเชื้อเชิญให้นักเดินทางมุ่งหน้าสู่สถานที่จริง  ไม่ว่าจะเป็นเกาะขายหัวเราะ มุมตึกคึกคัก หรือทะเลทรายสบายใจ รวมทั้งกองทัพตัวการ์ตูนมากมายที่พร้อมใจรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนทุก ๆ คน

ขายหัวเราะต้องขอขอบคุณแฟน ๆ ที่นึกถึงกัน และขอบคุณทาง ททท. ที่ให้เกียรติเชิญขายหัวเราะมาโปรโมตเกาะแห่งนี้ในนาม ‘เกาะขายหัวเราะ’ อย่างเป็นทางการ โดยมีความตั้งใจที่จะร่วมมือกันตั้งรับ ฟื้นฟู และส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์โรคโควิด 19 คลี่คลาย ซึ่งหลายภาคส่วนทั้งการท่องเที่ยวระดับประเทศและระดับท้องถิ่นต้องการการส่งเสริมสนับสนุนอย่างมาก

นายอิษฎา เสาวรส ผอ. ททท. สำนักงานตราด กล่าวเพิ่มเติมถึงความพร้อมของจังหวัดตราดรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายว่า พื้นที่ท่องเที่ยวของจังหวัดตราดมองได้ 4 ส่วน คือ 1. บนฝั่ง 2. หมู่เกาะช้าง 3. เกาะกูด และ 4. เกาะหมาก พื้นที่บนฝั่งจะโดดเด่นในเรื่องของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อาหาร และชายหาดโซนอำเภอคลองใหญ่ที่เชื่อมโยงชายแดนไทย – กัมพูชา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเกษียณ เดินทางสะดวกและมีสินค้าชุมชนที่โดดเด่น สำหรับเกาะขายหัวเราะ ททท. จะโปรโมตการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับเกาะหมากและเกาะกระดาดเพื่อให้เป็นการกระจายนักท่องเที่ยวจากเกาะช้าง ในช่วงไฮซีซั่นเดือนพฤศจิกายน - พฤษภาคม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของจังหวัดตราดที่มีกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างครอบคลุมทุกวัย โดยให้เกาะหมากเป็นศูนย์กลาง เนื่องจากเป็นพื้นที่ศักยภาพสูง มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ค่อนข้างพร้อม ทั้งการเดินทางเข้าถึงที่สะดวก สถานที่พักให้เลือกหลากหลาย ร้านอาหารของชุมชนจำนวนมาก มีเกาะใกล้เคียงให้เที่ยวได้หลายเกาะ อาทิ เกาะขาม เกาะระยั้ง เกาะกระดาด และเกาะขายหัวเราะ อีกทั้ง เป็นต้นแบบการท่องเที่ยว Low Carbon Destination หนึ่งในรูปแบบท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism: RTs) นำไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ตามนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาประเทศและระบบเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิด BCG Economy Model 

นอกจากนี้ จังหวัดตราด ได้เตรียมดำเนินโครงการ เกาะช้าง Together (KOH CHANG TOGETHER) เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบเดียวกับโครงการ Phuket Sandbox โดยให้ความสำคัญมาตรการควบคุมโรคและโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA ที่ ททท. ดำเนินการร่วมกับ กรมควบคุมโรค กรมอนามัย เพื่อเตรียมความพร้อมทุกภาคส่วนสำหรับการท่องเที่ยววิถีปกติใหม่ (New Normal) ปัจจุบัน จังหวัดตราดมีสถานประกอบการที่ได้รับตราดสัญลักษณ์ SHA แล้วมากกว่า 125 ราย รวมถึงการให้บุคลากรของสถานประกอบการทุกคนได้รับวัคซีนและดูแลสถานประกอบการตามมาตรฐานของสาธารณสุข

อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้รับมาตราฐาน SHA Plus เพื่อรองรับการดำเนินโครงการ เกาะช้าง Together ต่อไป ซึ่งขณะนี้ ผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA แล้ว กำลังช่วยกันเชิญชวนผู้ประกอบการรายอื่นที่ยังไม่ได้สมัคร ให้มาสมัครเข้าร่วมโครงการมาตรฐานฯ SHA โดยจัดกิจกรรม Workshop สอนวิธีการสมัครแบบตัวต่อตัว ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันได้ติดตามเรื่องการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรของสถานประกอบการควบคู่ไปด้วย

ทั้งนี้ใน 4 พื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดตราด มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี (2559 – 2563) คือ เยอรมัน สวีเดน และรัสเซีย ตามลำดับ เป็นกลุ่มครอบครัวและวัยเกษียณ เริ่มเข้ามาระหว่างเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ มีวันพักเฉลี่ยที่ 1-2 สัปดาห์ต่อพื้นที่ จากนั้น จะย้ายไปพื้นที่ถัดไปอีก 1 สัปดาห์ เท่ากับอยู่ในพื้นที่จังหวัดตราดประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และเดินทางกลับประเทศ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดตราด ข้อมูลล่าสุดเมื่อปี 2563 จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีจำนวน 938,547 คน มาจากภาคตะวันออกและภาคกลางเป็นหลัก เป็นกลุ่มคู่รักวัยทำงานและกลุ่มครอบครัว เริ่มเดินทางมากที่สุดในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ยาวไปถึงปลายปี ส่วนใหญ่จะเข้ามาในช่วงสุดสัปดาห์ พักเฉลี่ย 2 คืน ใช้จ่าย 6,232 บาท/คน/ทริป

คาดว่า การทำงานร่วมกับบันลือกรุ๊ปในครั้งนี้ จะทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดตราดปรากฏสู่สายตาของนักท่องเที่ยวชาวไทยในรูปแบบของความสนุกสนาน เกิดกระแสการเดินทางในช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวมากขึ้น และหากมีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางของ ศบค. ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเชิงบวกที่จะทำให้จังหวัดตราด มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดตราดจะยังคงดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดภายใต้มาตรการของสาธารณสุขควบคู่ไปด้วย ปัจจุบัน จังหวัดตราดมีมาตรการในการเข้าจังหวัดตามคำสั่งที่ 1389/2564 คือ ประชาชนทุกคนที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง โดยตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ แสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด AstraZeneca หรือ Johnson & Johnson 1 เข็ม หรือได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิดอื่นครบ 2 เข็ม ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง (ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง) แสดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจคัดกรองก่อนเข้าเมือง ก่อนลงเรือและก่อนเข้าพักในจังหวัดตราด

ภาพข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

ททท. จัดงาน NAS SUMMIT BANGKOK 2025 อีเวนต์ระดับโลกของคอนเท้นต์ครีเอเตอร์กว่า 1,000 ราย ร่วมแลกเปลี่ยนไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจ และถ่ายทอดประสบการณ์ท่องเที่ยวประเทศไทยไปทั่วโลก
ททท. ดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพตลาดเม็กซิโกเที่ยวไทย ร่วมกับพันธมิตรเปิดตัวแคมเปญ Thailand Special Deal พร้อมปลุกเสน่ห์ไทยในงาน Thai Festival Mexico 2025 เฉลิมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เม็กซิโกในปี 2568

ข่าวที่น่าสนใจ